หมอเสมคนดี ๔ แผ่นดิน
-----------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ
ชื่อผู้แต่ง สันติสุข โสภณสิริ. ชื่อ หมอเสมคนดี ๔ แผ่นดิน. สถานที่พิมพ์ กรุงเทพ. สำนักพิมพ์ แปลนพริ้นท์ติ้ง จำกัด. ๒๕๕๔. ๑๑๒ หน้า
-----------------------------------------------------------------------------------
มีเด็กทารกน้อยชื่อว่า ''เกษม'' แต่ได้เปลี่ยนชื่อว่า ''เสม'' แต่อยู่มาหลายเดือนนายโสมซึ่งเป็นพ่อก็ได้ล้มลงป่วยกะทันหันและเสียชีวิตโดยในที่สุด ตอนนั้นเสมได้อายุ 8 เดือน ภาระทั้งหมดเลยตกอยู่ที่นางจ้อยซึ่งเป็นภรรยา นางจ้อยได้เป็นข้ารับใช้ที่''วังสะปทุม'' เสมเติบโตและใช้ชีวิตในวัยเด็กที่นี่ เสมได้ไปเห็นคนๆหนึ่งจึงเอาไปเล่าให้แม่ฟัง แม่จึงบอกว่า ''คุณตาท่านเป็นหมอคือคนที่ช่วยเหลือผู้ป่วย''ท่านชื่อว่า ''ขุนโอสถกรรม'' พระยามนตรีนิกรโกษา เป็นอีกท่านหนึ่งที่เสมประทับใจมากยามใดที่ท่านกลับมาจากปารีสท่านก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการเป็นหมอมาเล่าให้เสมฟังบ่อยๆ จนเสมอยากที่จะเป็นหมอ
เสมอยู่ในวังจนอายุ 9 ขวบชีวิตที่ขาดพ่อทำให้ประสบความยากลำบากแต่มารดาได้เพียรพรํ่าสอนเสมอว่าให้เสมเห็นถึงค่าของความยากลำบาก คำสอนของมารดาทำให้เสมจำอยู่ในใจเสมอ
เสมค่อยๆสะสมความเพียรอยู่เสมอแต่เสมไม่เคยคิดจะท้อถอย เสมวาดเส้นชีวิตเส้นแรกตั้งแต่เมื่อเข้าสู่ชั้นประถม ความมุ่งมั่นทำให้เสมผ่านพ้นด้วยการเรียนดีเยี่ยมหลังจากจบชั้นประถมเส้นความฝันของเสมได้ลากมาต่อเนื่องจนจบชั้นมัธยม เสมเอาใจใส่ให้ตนเองจนกระทั่งปีสุดท้ายความใฝ่ฝันที่จะเป็นแพทย์ตั้งแต่ตอนเด็กยังถูกลากเส้นต่อเนื่องอย่างตั้งใจเป้าหมายของเสมค่อยๆเด่นชัดเพราะความวิริยะอุตสาหะ
ด้วยความขยันพากเพียร
เสมได้ก้าวสู่การเป็นแพทย์ หมอเสมได้ขอไปเป็นหมอที่ชนบทโดยที่ไม่เป็นหมอที่กรุงเทพหลายปีต่อมาได้มีโรคระบาดเกิดขึ้น คือ โรคระบาลแพร่เชื้ออหิวาต์ฆ่าคน เป็นการระบาดเกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรง ทางราชการมีคำสั่งให้หน่วยงานรับมือปัญหาอย่างเร่งด่วน แล้วก็หมอเสมได้อาสาเข้าร่วมโครงการทางการจึงถูกส่งตัวไปที่อัมพวา หมอเสมจึงได้ไปพักอยู่ที่ศาลาวัด 10 วันแรกก็เปิดที่รักษาผู้ป่วยแต่ก็ไร้แม้แต่เงาของผู้ป่วยโดยมีวันหนึ่งมีคนมารักษาหมอเสมได้ให้นํ้าเกลือจนผู้ป่วยอาการดีขึ้นและรู้สึกตัว หมอเสมดีใจมากที่สามารถรักษาได้ ผู้ป่วยคนนั้นชื่อว่า ''ตาพ่อง'' ตาพ่องรู้สึกว่าได้ติดหนี้บุญคุณหมอเสม เลยได้ไปบอกชาวบ้านทุกๆคนว่าถ้าใครป่วยให้ไปหาหมอเสมได้เลย ไม่กี่วันชาวบ้านก็แห่กันมามากมายเพื่อที่จะมารักษา ผู้คนก็ทยอยกันมาเรื่อยๆจนวันหนึ่งนํ้าเกลือได้หมดลง หมอเสมเลยได้คิดค้นนํ้าเกลือเถื่อน ซึ่งนํ้าเกลือเถื่อนได้ผลกับผู้ป่วย ทำให้ผู้คนหายขาดจากโรคอหิวาต์ แต่อยู่มาวันหนึ่งทางกรมมีคำสั่งให้หมอเสมไปประจำอยู่ที่อื่น พอชาวบ้านรู้ข่าวก็พากันมาอำลาหมอเสม
หมอเสมก็ได้เขียนจดหมายหานางแฉล้มว่า''จะสวมแหวนหมั้นในเร็ววัน'' แล้วหมอเสมก็ได้กลับไปหานางแฉล้ม หมอเสมกับนางแฉล้มก้อได้ครองคู่กันอย่างมีความสุข
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันสอดคล้อง 9 คำ ที่พ่อสอนไว้ดังนี้
1.ความเพียร คือ
หมอเสมรู้ว่ามันอาจเหนื่อย
หมอเสมรู้ว่ามันอาจใช้เวลาในการเป็นหมอ
หมอเสมรู้ว่ามันอาจมีปัญหา
แต่ถ้าเรามุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่ท้อถอยและลงมือทำนั้นสักวันนต้อง ''เป็นจริง'' ให้ได้
2. ความพอดี คือ หมอเสมใช้ความพยายามในการเป็นหมอที่ดี
3. ความรู้ตน คือ หมอเสมตัดความไม่จำเป็นออกเพื่อที่จะประหยัดเงิน
4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ คือ หมอเสมเลือที่จะไปเป็นหมอที่ชนบทเพราะจะช่วยผู้ป่วยที่ชนบท
5. โอนโยนแต่ไม่ออนแอ เช่น หมอเสมหาวิธีการที่หลากหลายเพื่อที่จะเป็นหมอได้มารักษาผู้อื่น
6. พูดจริงทำจริง คือ หมอเสมจดจำคำที่มารดาสอนมาตลอดในการทำฝันให้ตนเองคือคำว่าเลือก พยายาม ไม่ออนเเอและความเสียสละ
7. หนังสือเป็นออมสินสะสมความรู้ เกี่ยวกับแรงบัลดาลใจ ความพยายาม+สาระความรู้+ความเพียร+ในความฝันของตนเอง
8. ความซื่อสัตย์ คือ ยอมไปรักษาที่ชนบทแทนที่จะไปรักษาที่กรุงเทพทั้งที่กรุงเทพได้เงินเดือรดี สบาย แต่หมอเสมยังเลือกที่ชนบท
9. การเอาชนะใจตนเอง เช่น หมอเสมชนะความลำบากโดยที่หมอเสมไม่มีพ่อและหมอเสมได้คิดค้นนํ้าเกลือเถื่อนมาเพื่อรัษาผู้คน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น