---------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลทางบรรณานุกรมของสำนักหอสมุดแห่งชาติ
ชื่อผู้แต่ง พระไพศาล วิสาโล. ชื่อ แพ้ก็ไม่ทุก ลงก็เป็นสุข(สุขได้แม้ไม่สำเร็จ) . สถานที่พิมพ์ กรุงเทพ. สำนักพิมพ์ เรจีนา. ๒๕๕๙. ๔๘ หน้า
----------------------------------------------------------------------------
สุขได้แม้ไม่สำเร็จ
ความสำเร็จเป็นยอดปราถนาของทุกคนเพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความสุข แต่ความสำเร็จก็เช่นเดี่ยวกับความมั่งมี ไม่สามารถเป็นหลักประกันแห่งความสุขได้อย่างแท้จริงใครก็ตามที่เอาความสุขไปผูกไว้กับความสำเร็จ ย่อมยากที่จะพบกับคสามสุขที่ยั่งยืนทั้งนี้ก็เพราะรสชาติของความสุขชนิดนี้หอมหวานเพียงชั่วคราว ไม่ช้าไม่นานก็รู้สึกจืดชืด ไม่ต่างกับเพลงที่ไพเราะ ฟังครั้งแรกก็ให้ความซาบซึ้งตรึงใจ แต่ถ้าฟังไปนานๆก็จะเริ่มรู้สึกจำเจ และกลายเป็นเบื่อในที่สุด ต้องขวนขวายหาเพลงใหม่มาฟังแทน
ด้วยเหตุนี้จึงมีน้อยคนที่พอใจหรือพอเพียงกับความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าความสำเร็จที่ได้มายังไม่เพียงพอ ต้องการได้อีก และนั่นคือที่มาแห่งความทุกข์ จนกว่าจะประสบความสำเร็จครั้งใหม่
นักธุรกิจผู้หนึ่งประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว เขาสามารถปลดหนี้สินของธุรกิจครอบครัวซึ่งสูงถึง ๗,๐๐๐ ล้านบาทได้ภายในเวลา ๓ ปีเท่านั้นแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็พบว่าตัวเองเปลี่ยนไป เบื่อหน่ายกับกับการทำงานรูสึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ''ผมจะมีความหมายอะไร ก็เป็นแค่..มหาเศรษฐีหมื่นล้านคนหนึ่ง(ในจำนวนอีกหลายร้อยคนในไทย)'' ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องดิ้นรนหาความสำเร็จอย่างใหม่นั่นคือเอาดีทางการเมือง เขายอมรับว่าวันที่เขามีความสุุขที่สุดในชีวิตคือวันที่ได้เป็นรัฐตรีการฯ ในเวลาต่อมาแต่น่าสงสัยว่าเขาจะมีความสุขไปได้นานเท่าไหร่ตราบใดที่ยังไม่ได้เป็นรัฐตรีการฯ
ความสำเร็จหากผูกติดกับตำแหน่งยิ่งให้คสามสุขที่คลอนแคลน เพราะตำแหน่งทั้งหลายเป็นของชั่วคราว ไม่นานก็ต้องตกเป็นของคนอื่น
ใช่หรือไม่ว่าหากสุกใจที่ได้เป็นประธานธิบดี ก็ต้องทุกข์แน่นอน มองในแง่นี้ความสำเร็จทำให้เกิดทุกข์ได้ เหมือนคนที่ลอยสูงมากเท่าไหร่เมื่อตกลงมาก็เจ็บมากเท่านั้น ที่น่าคิดมากกว่านั้นคือ เราแน่ใจได้
ที่น่าคิดมากกว่านั้นก็คือ เราแน่ใจได้อย่างไรว่าความสำเร็จจะเป็นสิ่งน่าชื่นชมไปตลอดกาล มีหลายคนเมื่อมองย้อนไปถึงความสำเร็จของตนในอดีต กลับรู้สึกว่าไม่น่าชื่นชมเลย เพราะเห็นข้อบกพร่องหรือข้อเสียติดตามมามากมาย
ความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญก็จริงอยู่ แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการได้ทำสิ่งดีงาม ถูกต้อง และเสียสละหากได้ทำความดีงามอย่างเต็มที่ แม้ไม่สำเร็จหรือประสบชัยชนะ ก็ได้ชื่อว่าทำสิ่งที่ควรแก่ความภูมิใจ ซึ่งให้ความสุขที่ยั่งยืนกว่าความสำเร็จทั่วๆไ
----------------------------------------------------------------------------
สุขได้แม้ไม่สำเร็จ
ความสำเร็จเป็นยอดปราถนาของทุกคนเพราะเชื่อว่าจะนำมาซึ่งความสุข แต่ความสำเร็จก็เช่นเดี่ยวกับความมั่งมี ไม่สามารถเป็นหลักประกันแห่งความสุขได้อย่างแท้จริงใครก็ตามที่เอาความสุขไปผูกไว้กับความสำเร็จ ย่อมยากที่จะพบกับคสามสุขที่ยั่งยืนทั้งนี้ก็เพราะรสชาติของความสุขชนิดนี้หอมหวานเพียงชั่วคราว ไม่ช้าไม่นานก็รู้สึกจืดชืด ไม่ต่างกับเพลงที่ไพเราะ ฟังครั้งแรกก็ให้ความซาบซึ้งตรึงใจ แต่ถ้าฟังไปนานๆก็จะเริ่มรู้สึกจำเจ และกลายเป็นเบื่อในที่สุด ต้องขวนขวายหาเพลงใหม่มาฟังแทน
ด้วยเหตุนี้จึงมีน้อยคนที่พอใจหรือพอเพียงกับความสำเร็จ ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าความสำเร็จที่ได้มายังไม่เพียงพอ ต้องการได้อีก และนั่นคือที่มาแห่งความทุกข์ จนกว่าจะประสบความสำเร็จครั้งใหม่
นักธุรกิจผู้หนึ่งประสบความสำเร็จทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว เขาสามารถปลดหนี้สินของธุรกิจครอบครัวซึ่งสูงถึง ๗,๐๐๐ ล้านบาทได้ภายในเวลา ๓ ปีเท่านั้นแต่แล้ววันหนึ่งเขาก็พบว่าตัวเองเปลี่ยนไป เบื่อหน่ายกับกับการทำงานรูสึกว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ''ผมจะมีความหมายอะไร ก็เป็นแค่..มหาเศรษฐีหมื่นล้านคนหนึ่ง(ในจำนวนอีกหลายร้อยคนในไทย)'' ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องดิ้นรนหาความสำเร็จอย่างใหม่นั่นคือเอาดีทางการเมือง เขายอมรับว่าวันที่เขามีความสุุขที่สุดในชีวิตคือวันที่ได้เป็นรัฐตรีการฯ ในเวลาต่อมาแต่น่าสงสัยว่าเขาจะมีความสุขไปได้นานเท่าไหร่ตราบใดที่ยังไม่ได้เป็นรัฐตรีการฯ
ความสำเร็จหากผูกติดกับตำแหน่งยิ่งให้คสามสุขที่คลอนแคลน เพราะตำแหน่งทั้งหลายเป็นของชั่วคราว ไม่นานก็ต้องตกเป็นของคนอื่น
ใช่หรือไม่ว่าหากสุกใจที่ได้เป็นประธานธิบดี ก็ต้องทุกข์แน่นอน มองในแง่นี้ความสำเร็จทำให้เกิดทุกข์ได้ เหมือนคนที่ลอยสูงมากเท่าไหร่เมื่อตกลงมาก็เจ็บมากเท่านั้น ที่น่าคิดมากกว่านั้นคือ เราแน่ใจได้
ที่น่าคิดมากกว่านั้นก็คือ เราแน่ใจได้อย่างไรว่าความสำเร็จจะเป็นสิ่งน่าชื่นชมไปตลอดกาล มีหลายคนเมื่อมองย้อนไปถึงความสำเร็จของตนในอดีต กลับรู้สึกว่าไม่น่าชื่นชมเลย เพราะเห็นข้อบกพร่องหรือข้อเสียติดตามมามากมาย
ความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญก็จริงอยู่ แต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการได้ทำสิ่งดีงาม ถูกต้อง และเสียสละหากได้ทำความดีงามอย่างเต็มที่ แม้ไม่สำเร็จหรือประสบชัยชนะ ก็ได้ชื่อว่าทำสิ่งที่ควรแก่ความภูมิใจ ซึ่งให้ความสุขที่ยั่งยืนกว่าความสำเร็จทั่วๆไ
ซารา เรนเนอร์
เป็นนักกีฬาสกีวิบาก ชาวแคนาดาที่นำคู่เข่งมาตลอด แต่แล้วจู่ๆไม้ค้ำสกีของเธอหัก
เธอพยายามฝืนสู้แต่ก็ไม่ประสบผล นักสกีหลายคนแซงเธอไป
ขณะที่เธอรู้สึกหมดหวังก็มีชายผู้หนึ่งยื่นไม้ข้างหนึ่งให้เธอ เธอจึงกลับสู่การแข่งขันและสามารถนำทีมแคนาดาคว้าเหรียญทองได้ในที่สุด
เธอรู้เมื่อจบการแข่งขันว่าผู้ที่ช่วยเธอคือ บเยอร์นาร์ ฮาเกนสโมเอน นักกีฬาชาวนอรเวย์ ซึ่งเข้าเส้นชัยมาเป็นอันดับที่สี่ เขากลาย เขากลายเป็นวีรบุรุษของแคนาดาในทันที แต่เขากลับให้สัมภาษณ์ว่าเขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องยกย่องกันขนาดนี้ เขาให้เหตผลว่า ''ถ้าคุณชนะแต่ไม่ได้ช่วยเหลือใครในเวลาที่คุณควรช่วย นั่นเป็นชัยชนะประเภทไหนกัน''สำหรับเขาการทำสิ่งที่ถูกต้องมีคุณค่ายิ่งกว่าชัยชนะ
ความสำเร็จนำมาซึ่งความสุขก็จริง แต่การอยู่เหนือความสำเร็จหรือไม่หมกมุ่นติดยึดกับความสำเร็จต่างหาก คือที่มาแห่งความสุขที่แท้จริง
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันสอดคล้อง 9 คำ ที่พ่อสอนไว้ดังนี้
1.ความเพียร คือ
ทุกๆเรื่องอาจจะมีปัญหา
ทุกๆเรื่องอาจจะต้องใช้เวลา
แต่ถ้าเรามุ่งมั่นและไม่ท้อความสำเร็จในทุกๆเรื่องก็จะบังเกิดมา
2. ความพอดี คือ ดังข้อความที่ว่า ''จงใช้ชีวิตให้เป็นสุข แม้ว่าชีวิตจะทุกข์ก็ตาม ไม่ควรที่จะทำอะไรเกิดควรถึงแม้ว่าจะมีความสุขแต่เชื่อเลยว่าสุขไม่ได้นาน ดังนั้นจงสุขตามที่เราจะสุขไหวแค่นั้นเอง''
3. ความรู้ตน คือ คนเราเกิดมาความรู้ของทุกคนจะมากหรือน้อย จงเอาความรู้ที่ได้มาใช้ชีวิตให้พอเหมาะกับตัวเอง
4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ คือ
5. โอนโยนแต่ไม่ออนแอ คือ อย่าท้อถอยในการขวนขวายความสำเร็จ ความปราถนาของตนเองโดยการทำอย่างพอดี
6. พูดจริงทำจริง คือ ซารา เรนเนอร์คิดไว้ว่าจะคว้าเหรียญทองให้ได้เพื่อให้ชาวแคนาดาได้มีความสุขไปกับตน แล้วสุดท้ายเทอก็ทำได้จึงทำให้ชาวแคนาดามีความสุข
7. หนังสือเป็นออมสินสะสมความรู้ เกี่ยวกับแรงบัลดาลใจ ความพยายาม+สาระความรู้+ความเพียร+มปราถนาของตนเอง+ในความฝันของตนเอง
8. ความซื่อสัตย์ คือ บเยอร์นาร์ ฮาเกนสโมเอนช่วยเหลือ ซารา เรนเนอร์ในขณะที่แข่งขันอยู่ซึ่ง บเยอร์นาร์ ฮาเกนสโมเอนไม่คิดที่จะเอาชนะใครแต่ถือความมีน้ำใจเป็นหลัก
9. การเอาชนะใจตนเอง คือ สามารถหาความสุขได้และประสบความสำเร็จที่แท้จริง
ความสำเร็จนำมาซึ่งความสุขก็จริง แต่การอยู่เหนือความสำเร็จหรือไม่หมกมุ่นติดยึดกับความสำเร็จต่างหาก คือที่มาแห่งความสุขที่แท้จริง
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันสอดคล้อง 9 คำ ที่พ่อสอนไว้ดังนี้
1.ความเพียร คือ
ทุกๆเรื่องอาจจะมีปัญหา
ทุกๆเรื่องอาจจะต้องใช้เวลา
แต่ถ้าเรามุ่งมั่นและไม่ท้อความสำเร็จในทุกๆเรื่องก็จะบังเกิดมา
2. ความพอดี คือ ดังข้อความที่ว่า ''จงใช้ชีวิตให้เป็นสุข แม้ว่าชีวิตจะทุกข์ก็ตาม ไม่ควรที่จะทำอะไรเกิดควรถึงแม้ว่าจะมีความสุขแต่เชื่อเลยว่าสุขไม่ได้นาน ดังนั้นจงสุขตามที่เราจะสุขไหวแค่นั้นเอง''
3. ความรู้ตน คือ คนเราเกิดมาความรู้ของทุกคนจะมากหรือน้อย จงเอาความรู้ที่ได้มาใช้ชีวิตให้พอเหมาะกับตัวเอง
4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ คือ
5. โอนโยนแต่ไม่ออนแอ คือ อย่าท้อถอยในการขวนขวายความสำเร็จ ความปราถนาของตนเองโดยการทำอย่างพอดี
6. พูดจริงทำจริง คือ ซารา เรนเนอร์คิดไว้ว่าจะคว้าเหรียญทองให้ได้เพื่อให้ชาวแคนาดาได้มีความสุขไปกับตน แล้วสุดท้ายเทอก็ทำได้จึงทำให้ชาวแคนาดามีความสุข
7. หนังสือเป็นออมสินสะสมความรู้ เกี่ยวกับแรงบัลดาลใจ ความพยายาม+สาระความรู้+ความเพียร+มปราถนาของตนเอง+ในความฝันของตนเอง
8. ความซื่อสัตย์ คือ บเยอร์นาร์ ฮาเกนสโมเอนช่วยเหลือ ซารา เรนเนอร์ในขณะที่แข่งขันอยู่ซึ่ง บเยอร์นาร์ ฮาเกนสโมเอนไม่คิดที่จะเอาชนะใครแต่ถือความมีน้ำใจเป็นหลัก
9. การเอาชนะใจตนเอง คือ สามารถหาความสุขได้และประสบความสำเร็จที่แท้จริง
เป็นความรู้ที่ดีมากครับ สอนให้รู้ว่าถึงจะทำไม่สำเร็จ ก็มีความสุขได้
ตอบลบ